ตอบ ได้ แต่ยากหน่อยนะ ควรซื้อใหม่จะง่ายกว่านะ
ตอบ ได้ แต่ยากหน่อยนะ ควรซื้อใหม่จะง่ายกว่านะ
JASO FB, FC, FD คืออะไร
Jaso คือเกรดของ 2t
เริ่ม จาก F แล้วตามด้วย A B C D
ยิ่งห่างจากตัว A(เรียงตามอักษร อังกฤษ) ยิ่งดี
JASO FA
เกรดมาตราฐานในการหล่อลื่น,การชะล้าง,เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ และลดควันขาว
JASO FB
เพิ่มการหล่อลื่น,การชะล้าง และลดควันมากกว่า FA
JASO FC
การหล่อลื่นและเพิ่มกำลังเครื่องยนต์เหมือน FB แต่เพิ่มประสิทธิภาพในการชะล้างและลดควันขาวเพิ่มขึ้นจาก FB
JASO FD
เหมือน FC เว้นแต่เพิ่มประสิทธิภาพในการชะล้าง
เเต่ไม่ได้เเปลว่า FD ดีกกว่าเสมอไป บางตัวสอบเเค่เกรด Fc นานเเล้ว เเต่พัฒนาตัวน้ำมันต่อ โดยไม่ไปสอบเอาเกรด ก็มี
อัตราการผสมมีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับเกรดน้ำมัน และการใช้งาน
16:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =62.5cc
20:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =50cc
25:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =40cc
30:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =33.3cc
33:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =30cc
40:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =24cc
50:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =20cc
60:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =16.7cc
70:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =14.3cc
80:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =12.5cc
90:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =11.1cc
100:1 เบนซิน1ลิตร ต่อ 2T =10cc
สำหรับเครื่องยนต์ไม่เกิน 80 ซีซี: 50:1สำหรับเครื่องยนต์มากกว่า 80 ซีซี: 33:1
-ช่วงรันอินเครื่องใหม่ 20ชั่วโมงแรก 25:1- ……………………20 ชั่วโมงขึ้นไป 40:1
อัตราการผสมน้ำมันของเลื่อยยนต์ตามทฤษฎีจะผสมกัน 25 ต่อ 1
แต่ไม่ใช่อัตรา ส่วนผสมที่ดี ลูกค้าส่วนมากถ้าผสมแบบนี้จะทำให้เครื่องพัง เครื่องจะร้อน ทำให้ลูกสูบติด ทางเราจึงได้สอบถามไปยังมืออาชีพที่ใช้เลื่อยยนต์ ทำงานทั้งวัน หลายท่าน ต่างก็บอกว่า น้ำมันเบนซิน 1 ลิตรต่อ 2 ที 80 cc หรือ 80 ml
<p></p>
<p>วิธีดูแลรักษาบาร์หัวเฟือง แบบง่ายๆ<br />1.เทน้ำมันก๊าด (หรือน้ำมันสน)ลงไปในปลอกบาร์ <br />2.จุ่มหัวบาร์ลงไปทิ้งไว้ 1คืน</p>
<p>เพียงเท่านี้บาร์ของท่านก็กลับมาวิ่งฉิวเหมือนใหม่อีกครั้งและยังยืดอายุการใช้งานอีกด้วย</p>
สำหรับมือใหม่
วิธีแก้คือ
1.ถอดหัวเทียนออกมาเช็ดให้แห้ง (ถ้ามีปั๊มลมจะดีมากให้เป่าหัวเทียนให้แห้ง)
2.ดึงเชือกสตาร์ทประมาณ 20-30ครั้ง เพื่อให้ไอน้ำมันเก่าออกจากเสื้อสูบ (ถ้ามีปั๊มลมให้ฉีดเข้าไปในเสื้อสูบพร้อมกับดึงเชือกสตาร์ท5-10ครั้ง)
3.ใส่หัวเทียนเข้าไปใหม่ สตาร์ทอีกที อย่าลืมเปิดสวิทซ์ (ไม่ต้องเปิดโช้ค)
<p>เลื่อยยนต์น้ำมันท่วมชนิดรุนแรงเข้าห้องเครื่องเยอะ</p>
<p>(ทำตามระดับ1แล้วแต่ก็ยังไม่ได้)</p>
<p>1.เปิดกรองอากาศ ถอดหัวเทียนออก</p>
<p>2.ถอดท่อไอเสียออก</p>
<p>3.อัดลมเข้าเสื้อสูบ(รูหัวเทียน)พร้อมดึงเชือก20ครั้ง</p>
<p>4.เอาท่อไอเสียไปตากแดดไว้ ให้น้ำมันแห้ง</p>
<p>5.ใส่หัวเทียนลงไป สตาร์ทเครื่องโดยที่ไม่ต้องใส่ท่อไอเสีย</p>
<p>(ทิ้งไว้3นาที)</p>
<p>6.ประกอบเข้าไปใหม่</p>
<p>น่าจะเป็นจากแหวนลูกสูบหลวมทางที่ดีต้อง</p>
<p>เปลี่ยนลูกสูบ+แหวนหรือถ้าอากราหนักก็ต้อง</p>
<p>เปลี่ยนยกชุด. แต่ต้องสังเกตูดูซีลข้อเหวี่ยงด้วยนะ</p>
<p>ว่ารั่วหรือเปล่าถ้าเปลี่ยนได้ก็ดี รับรองเครื่องคุณ</p>
<p>กลับมาแรงแน่นอน</p>
<p>ล้างทะความสะอาดคาร์บูเรเตอร์แล้วปรับจูนอากาศน้ำมันใหม่ แต่ถ้ายังไม่หายให้เปลี่ยนซีลข้อเหวี่ยงทั้ง2ข้างหายแน่นอน</p>
<p>เมื่ออากาศร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิในห้องเครื่องเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ไม่สัมพันธ์กับเชื้อเพลิง ทำให้เครื่องวูบแล้วดับไป เมื่อสตาร์ทอีกครั้งก็ติดยาก วิธีแก้คือให้ทำตามหัวข้อเหล่านี้นะคะ</p>
<p>1.ปลอกลูกสูบขยายตัวเพราะความร้อนทำให้ลูกสูบติด-ผสม2tน้อยไป ควรผสม2Tอัตราส่วนให้พอดี 25:1 ค่ะ</p>