ผลิตโดย: | STIHL ANDREAS MASCHINENFABRIK | |
STUTTGART เยอรมนี | ||
ชุดหรือหมายเลขประกอบ: | 1120 | |
ปีแนะนำ: | พ.ศ. 2536 | |
ปีที่ยกเลิก: | ||
การเปลี่ยนเครื่องยนต์: | 36.6 ซม. (2.23 ลบ.ม. ) | |
จำนวนกระบอกสูบ: | 1 | |
กระบอกสูบกระบอกสูบ: | 36 มม. (1.42 นิ้ว) | |
ลูกสูบจังหวะ: | 36 มม. (1.42 นิ้ว) | |
ความหนาของแหวนลูกสูบ: | ||
ประเภทกระบอกสูบ: | อลูมิเนียมเจาะรูชุบโครเมี่ยม | |
วิธีการเข้า: | ลูกสูบเข้ารังเพลิง | |
ผู้ผลิตโฆษณา HP: | 1.6 | |
น้ำหนัก: | 9 ปอนด์ | |
การกำหนดค่าผู้ดำเนินการ: | การทำงานของชายคนหนึ่ง | |
ระบบแฮนด์บาร์: | ป้องกันการสั่นสะเทือน | |
โซ่เบรค: | ไม่จำเป็น | |
คลัทช์: | แรงเหวี่ยง | |
ประเภทไดรฟ์: | โดยตรง | |
การก่อสร้าง: | โพลีเมอร์ฉีดขึ้นรูปแมกนีเซียมหล่อ | |
ประเภทแม่เหล็ก: | มู่เล่แม๊ก | |
คาร์บูเรเตอร์: | ||
ชุดซ่อมหลัก: | ||
ชุดซ่อมผู้เยาว์: | ||
ระบบกรองอากาศ: | ตลับตาข่ายไนล่อน | |
ประเภทเริ่มต้น: | กรอกลับอัตโนมัติ | |
ปั๊มน้ำมัน: | อัตโนมัติ | |
RPM เครื่องยนต์สูงสุด: | 10,500 | |
รอบต่อนาที: | 2,800 | |
เวลาจุดระเบิด: | แก้ไขแล้ว | |
การตั้งค่าจุดเบรกเกอร์: | ไม่มี | |
FLYWHEEL / COIL AIR GAP: | 0.15 ถึง 0.20 มม. (0.006 ถึง 0.008 นิ้ว) | |
ประเภทหัวเทียน: | Bosch WSR6F แชมป์ RCJ7Y | |
ช่องเสียบหัวเทียน: | 0.51 มม. (0.020 นิ้ว) | |
เพลาข้อเหวี่ยงแบริ่งหลัก: | ลูกกลิ้งเข็มขัง | |
ความจุถังน้ำมัน: | ||
อัตราส่วนน้ำมันเชื้อเพลิง: | 40: 1 กับน้ำมัน Stihl | |
แนะนำ FUEL OCTANE: | เกรดปกติ | |
ข้อมูลจำเพาะของน้ำมันผสม: | น้ำมันเลื่อยโซ่สองรอบ Stihl |
หลังจากมื่อคืนล้างคาบูแล้ว คิดว่ามาถูกทางแล้ว แต่ก็ยังเกิดอาการเหมือนเดิม คือ ใช้ไปสักพักแล้ววอดดับ หรือ ชอยใด้ประมาน2เมตรแล้ววอดดับ ล่อน้ำมันสตาทติดแล้วชอยไปใด้ครั้งละ2เมตรแล้ววอดดับ แต่วันนี้ใด้รู้ต้นเหตุแล้ว ให้ทายกันว่าเกิดจากอะไร ไม่ใช่หัวเทียน ไม่ใช้หัวกรองตัน ไม่ใช่คาบูตัน ไม่ใช่การผสม2ที ไม่ใช่น้ำมันหมด ไม่ใช่น้ำมันไม่ท้วมหัวกรอง แต่เป็น…….. เป็นสิ่งที่ผมว่าหลายคนคาดไม่ถึง ลองทายกันมาเล่นๆดู เดียวมาเฉลย
สูตรที่1
ก่อนติดเครื่องปรับสกรู H และ L เข้าไปจนสุด(หมุนตามเข็มนาฬิกา) แต่ไม่ต้องขันแน่นพอตึงมือ
สูตรที่2
ก่อนติดเครื่องปรับสกรู H และ L เข้าไปจนสุด(หมุนตามเข็มนาฬิกา) แต่ไม่ต้องขันแน่นพอตึงมือ
-แล้วคลาย H ออกมา 1 รอบ กับอีก 1/4 รอบ และปรับคลาย Lออกมา 1 รอบครึ่ง
-ติดเครื่องกดคันเร่งครึ่งหนึ่ง ขัน L เข้าช้าๆ จนได้รอบสูงสุดแล้วคลายออกมา 1/4 รอบ แล้วปล่อยคันเร่ง
-ปรับคลาย T (น๊อตตั้งสโลว์) ทวนเข็มจนโซ่หยุดหมุน และถ้าเครื่องเหมือนจะดับให้ขันเข้า
-ทีนี้มาปรับ H ซึ่งสำคัญที่สุด เร่งเครื่องให้สุด (เสียงจะดังสักหน่อย) ค่อยๆปรับเข้าไปรอบเครื่องจะค่อยๆสูงขึ้นและพอรอบเครื่องเริ่มตกให้ขันถอยกลับจนรอบเครื่องสูงขึ้นแล้วจึงหยุด(จุดนี้จะประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุดแต่จะไม่ได้กำลังสูงสุด) ให้ทดลองตัดดู ถ้าตัดแล้วเครื่องยนต์แรงตกให้ทำการปรับสกรู H คลายออกมาทีละนิดแล้วลองตัดใหม่จนกว่าจะได้ความแรงที่เราพอใจ ถ้าปรับได้สมบูรณ์ควันจะออกไม่เยอะ
สูตรที่3
ก่อนติดเครื่องปรับสกรู H และ L เข้าไปจนสุด(หมุนตามเข็มนาฬิกา) แต่ไม่ต้องขันแน่นพอตึงมือ
ตั้ง L 1 รอบ ตั้ง H 1.5 รอบ
ถ้าสตาร์ทติดแล้ว มาลองจูนด้วยวิธีของผมดูครับ บีบคันเร่งให้สุด บีบย้ำๆเพื่อฟังเสียงรอบเครื่องว่ามีอาการแบบไหนถ้าบีบสุดแล้ว
มีอาการวูบๆเหมือนอากาศ
เข้าไอดีมากไป ให้คลาย H ออกมา 1 มิล แล้วบีบจนสุดฟังเสียงอีก
ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนอาการนี้หาย เมื่อเครื่องได้กำลังตามที่ต้องการแล้ว
จากนั้นไปลองผ่าไม้ดูครับ
ถ้าเครื่องแรงตามต้องการแล้วก็พอแค่นั้นครับ ไม่ต้องไปยุ่งกับ L
L ตั้งใว้ตรงจุดไหนคือใว้จุดนั้นเลย ถ้าตั้ง L ใหม่ ก็ต้องได้มาจูน H
หากำลังเครื่องอีกครับ ส่วนตัวล่างคือตัวตั้งรอบเครื่อง ควรตั้งอยู่ กลางๆใว้ก่อน พอจูนได้แล้วค่อยมาตั้งรอบเดินเบาตามต้องการครับ
L ตั้งได้ตามต้องการไม่มีรอบที่ตายตัวจะตั้ง 1.1รอบ 1.2 รอบ 1.3 รอบ1.4 รอบ 1.5 รอบ ก็ได้
แต่ไม่เกิน 1.5 รอบสำหรับเครื่องใหม่ จากนั้นไปจูน H หากำลังเครื่องอย่างเดียวเลย ง่ายๆครับถ้าเราเข้าใจการทำงานของมัน
ถ้าคลาย H ออกมาเยอะเกิน
เครื่องจะเร่งไม่ขึ้น ควันเยอะ
ให้หมุน H เข้าครั้งละ 1 มิล
บีบให้สุดหากำลังเครื่อง ทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนได้ตามต้องการ
ถ้าน้ำมันท่วมหัวเทียน อย่าเปิดโช๊ค
ให้บีบคันเร่งจนสุดค้างใว้แล้วสตาร์ท มันถึงจะติด
ถ้าตั้ง L เกิน 1.5 ไม่มีตัวไหนพังครับ แต่มันจะเปลืองน้ำมัน
ให้เข้าใจง่ายๆ L คือวาล์วควบคุมการจ่ายน้ำมันออกไปที่ท่อไอดี
ถ้าเราคลายออกมามาก มันก็จะเปิดวาล์วกว้างขึ้น น้ำมันจะถูกฉีดไปที่ท่อไอดีมากขึ้น เหมือนเราเปิดก๊อกน้ำนั่นละครับ ดังนั้นเมื่อ
น้ำมันออกจากคาร์บูเยอะ มันก็ต้องการน้ำมันเข้าไปที่คาร์บูเยอะ
ดังนั้นตัว H นี่ล่ะคือตัวทำหน้าที่ ควบคุมการจ่ายน้ำมันเข้ามาที่คาร์บู แต่มันไม่ได้ไปเปิดน้ำมันโดยตรง มันทำหน้าที่เป็นวาล์ว
ควบคุมอากาศ ที่มาจากห้องข้อเหวี่ยง แล้วมาปั้มผ้าปั้ม แล้วผ้าปั้มจะเปิดน้ำมันเข้าคาร์บูตอนที่ท่อลมดูดอากาศเข้า และปิดน้ำมันเข้าคาร์บูตอนท่อลมดันอากาศออก ตามจังหวะที่เครื่องทำงาน
ลองปรับจูนตามที่บอกไปครับ
มือนึงบีบคันเร่ง อีกมือจูนหมุนหา
รอบโดยไม่ต้องดับเครื่อง จะทำให้เราฟังเสียงการเปลี่ยนแปลงของรอบเครื่องได้ดีครับ
บีบสุดแล้วผ่อน ผ่อนแล้วหมุน หมุนแล้วบีบให้สุด เราจะได้ยินการเปลี่ยนของรอบเครื่องทันที
ผมจูนไม่เกิน 10 วิ ใช้ได้เลยครับ ถ้าชิ้นส่วนส่วนอื่นๆของเครื่องปกติครับ